จิ้งจอกแพ้ไก่ เลสเตอร์ ต้องอกหักหลุดโค้งตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีก ในที่สุด หลังแพ้คาบ้านให้กับ สเปอร์ส 2-4 ในนัดสุดท้าย จบอันดับ 5 ของตาราง ทั้งที่คู่แข่งแย่งตั๋วอย่าง เชลซี อุตส่าห์พลาดท่าแพ้ให้แล้ว
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เลสเตอร์ 2 – สเปอร์ส 4
สนาม : คิงเพาเวอร์ สเตเดี้ยม
เกมเริ่มมาถึงนาทีที่ 9 จิ้งจอกได้โอกาสลุ้นก่อนจากการเปิดลูกเตะมุมเข้ามาของ ยูริ ตีเลอมันส์ เข้ามาในกรอบเขตโทษ เป็นทางด้าน คลาการ์ โซยุนคู วิ่งพุ่งเข้ามาโขกแต่เข้ามือของ อูโก้ โยริส นายด่านของสเปอร์ส
ถัดมานาทีที่ 18 โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ ทำฟาล์ว เจมี่ วาร์ดี้ ในกรอบเขตโทษ กรรมการเช็คจากวีเออาร์และเป็นจุดโทษ และเป็นเจ้าตัวที่ลุกขึ้นมาซัดเองด้วยขวาเต็มข้อไม่พลาด เดอะ ฟ็อกซ์ ขึ้นนำก่อน 1-0
ต่อมาอีก 3 นาทีต่อมา เวสลี่ย์ โฟฟาน่า มีอาการบาดเจ็บ เลยถูกเปลี่ยนออก ทางด้าน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่ของเลสตอร์ ตัดสินใจส่งทางด้าน นามปาลส์ เมนดี้ ลงมาแทน
นาทีที่ 25 ไก่เดือยทอง หวิดได้ประตูตีเสมอ ซน ฮึง-มิน เปิดลูกครอสเตะมุมเข้ามาในหัวกระโหลก โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ ลอยตัวขึ้นโหม่งในระยะเผาขนแต่ชนคาน พลาดโอกาสทองอย่างไม่น่าเชื่อ
ขยับมานนาทีที่ 41 สเปอร์ส ได้ลูกเตะมุมก่อนเปิดเข้ามาโดย ซน ฮึง-มิน เข้ามาในพื้นที่อันตรายของเจ้าถิ่น และชกออกมาโดย แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล มาเข้าทาง แฮรี่ เคน จับก่อนหนึ่งจังหวะก่อนที่จะซัดด้วยขวาเข้าประตูไป ทีมจากลอนดอนเหนือ ไล่มาเป็น 1-1
หลังจากนั้นเกมเริ่มเปิดมากขึ้น ทั้งสองทีมแลกเกมรุกเข้าใส่หมายจะทำประตูขึ้นนำเพื่อชิงความได้เปรียบ แต่ไม่มีสกอร์เพิ่ม ทำให้จบ 45 นาทีแรก เลสเตอร์ เสมอ สเปอร์ส 1-1
เกมครึ่งหลัง เข้าสู่นาทีที่ 53 ทีมเยือนทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษอีกครั้ง ดาวินซอน ซานเชซ ไปเหนี่ยว เจมี่ วาร์ดี้ ในกรอบเขตโทษ กรรมการชี้และเป่าทันที และเป็นเจ้าตัวเองที่ลูกขึ้นมาซัดอีกครั้ง จิ้งจอกแซงขึ้นนำเป็น 2-1 และเป็นประตูที่สามของเขาในเกมนี้
ถัดมานาทีที่ 58 เลสเตอร์เกือบบวกสกอร์เพิ่มอีกครั้งจากการส่องไกลระยะเกือบ 30 หลา ของ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ แต่ทว่า อูโก้ โยริส ปฏิกิริยายังไวปัดข้ามคานไปได้แบบหวุดหวิด
ขยับมานาทีที่ 68 ทีมเยือนปรับเกมรุกเปลี่ยนตัวผู้เล่น 2 ราย สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ และ เดเล่ อัลลี่ ออก และส่ง ลูกัส มูร่า และ แกเร็ธ เบล ลงมาแทน
จนกระทั่งนาทีที่ 76 ยิด อาร์มี่ ได้ลูกเตะมุมเปิดโค้งเข้าหาผู้รักษาประตูมาโดย คักลาร์ โซยุนคู และเป็น แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล นายด่านเจ้าถิ่นปัดบอลพลาดเข้าประตูตัว สเปอร์สไล่ตีเสมอเป็น 2-2
ถัดมานาทีที่ 80 เบรแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่เดอะ ฟ็อกซ์ ส่งเกมรุกลงมาอีกตัว ถอด มาร์ค อัลไบรท์ตัน และส่ง อาโยเซ่ เปเรซ ลงมาแทน
ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 87 ผู้มาเยือนมาได้เฮ แฮร์รี่ เคน ลากบอลจากริมเส้นตัดเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะล็อกหลบหลายจังหวะและไม่มีจังหวะยิงไหลต่อให้ แกเร็ธ เบล วิ่งเข้ามาซัดด้วยซ้ายไร้ตัวประกบ สเปอร์ส แซงขึ้นนำ เลสเตอร์ 3-2
ก่อนหมดเวลานาทีที่ 90+6 ไก่เดือยทองมาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะจากส่องไกลหน้ากรอบเขตโทษของ แกเร็ธ เบล บอลแรงเสียบเสาเข้าประตูไป เสียงนกหวีดดังขึ้นหมดเวลา สเปอร์ส บุกมารัวยิงแซง เลสเตอร์ 4-2 ส่งผลให้ทีมเยือนได้ไปยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ และ แฮร์รี่ เคน เป็นดาวซัลโวประจำฤดูกาลนี้ (23 ประตู) ขณะที่เจ้าถิ่นอดไปแชมเปี้ยนส์ ลีก หล่นไปจบอันดับ 5 ของฤดูกาล แต่ได้สิทธิ์ไปเล่นยูโรปา ลีก