ฟอร์สเบิร์กเบิ้ล! เกมสุดดราม่า! วิคเตอร์ เครสสัน ตัวสำรองสวมบทฮีโร่หลังลงมาซัดประตูชัยช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้ายพา สวีเดน เบียดเอาชนะ โปแลนด์ 3-2 โดย เอมิล ฟอร์สเบิร์ก เหมาคนเดียวสองประตูในเกมนี้อีกด้วยพาทีมจบแชมป์กลุ่ม ส่วน โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ แม้จะยิงสองเม็ดในเกมนี้แต่ช่วยทีมไม่ไหวจบบ๊วยของกลุ่มร่วงตกรอบศึกยูโร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
สนาม : เครสตอฟสกี้ สเตเดี้ยม, เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย)
ฟุตบอล ยูโร 2020 กลุ่ม อี นัดสุดท้าย เมื่อคืนวันพุธที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา ระหว่าง สวีเดน ที่การันตีเข้ารอบ 16 ทีมไปแล้วพบกับ โปแลนด์ ที่มีแค่แต้มเดียวจมบ๊วยของกลุ่ม เกมนี้ทัพโปลต้องชนะให้ได้เท่านั้นเพื่อโอกาสลุ้นเข้ารอบต่อไป
ยานเน่ อันเดอร์สสัน ยังใช้ชุดเดิมที่บดเอาชนะ สโลวาเกีย 1-0 จะเปลี่ยนแค่ มาร์คุส เบิร์ก หัวหอกตัวเก๋ามาใช้ โรบิน ไควสัน ยืนจับคู่ตัวจริงร่วมกับ อเล็กซานเดอร์ อิซัค โดยมี เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ขับเคลื่อนเกมตรงกลางร่วมกับ เซบาสเตียน ลาร์สสัน
ด้าน เปาโล ซูซ่า นายใหญ่ของ โปแลนด์ เกมนี้ต้องเค้นฟอร์มเก่งเพื่อคว้าสามแต้มให้ได้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยังเป็นทีเด็ดคอยล่าตาข่ายอยู่แดนหน้า และมีตัวสนับสนุนอย่าง คาโรล สวิเดอร์สกี้ และปิโอเตอร์ เซลินสกี้
เปิดฉากครึ่งแรกมาได้แค่ 2 นาที ทัพไวกิ้ง สวีเดน ออกนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว 1-0 จากจังหวะที่ มิคาเอล ลุสติก วางบอลมาหน้าประตูให้ อเล็กซานเดอร์ อิซัค พักอกเล่นกับ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ก่อนจังหวะสุดท้าย คามิล ยอซเวี๊ยค จะสกัดพลาดไปเข้าทาง ฟอร์สเบิร์ก หลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายผ่าน วอยเชี๊ยค เชสนี่ เข้าไป
นาที 17 ทัพไว้กิ้งรอดพ้นจากการเสียประตูอย่างเหลือเชื่อ่ หลัง โปแลนด์ ทิ้งโอกาสทองชวดตีเสมอ หลัง ปิโอเตอร์ เซลินสกี้ เปิดเตะมุมมาในกรอบให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ขึ้นโขกไปชนคาน บอลตกหน้า เลวานดอฟสกี้ โหม่งซ้ำเข้าไปอีกครั้งแต่ก็ดันไปชนคานอีก ก่อนจะโดนแนวรับสวีเดนเคลียร์ออกไป
ท้ายครึ่งแรก โปแลนด์ พยายามโหมบุกอย่างหนักเพื่อทวงประตูตีเสมอให้ได้ แต่จังหวะสุดท้ายก็ยังไม่ผ่านแนวรับของสวีเดนที่ช่วยกันได้ดี
นาที 45+1 ทัพโปลเกือบได้ลูกตีเสมอหลัง ปิโอเตอร์ เซลินสกี้ ได้บอลนอกกรอบก่อนซัดด้วยซ้ายเต็มแรงบอลพุ่งเกือบเสียบใต้คานแต่ยังดีที่ โรบิน โอลเซ่น ที่โชว์เหนียวบินปัดปลายมือออกหลังหวุดหวิด
จบครึ่งแรก สวีเดน ขึ้นนำ โปแลนด์ 1-0
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง นาที 47 โปแลนด์ ได้ลุ้นตีเสมออีกหลัง คามิล ยอซเวี๊ยค ลากตัดเข้าหน้ากรอบก่อนตะบันเต็มแรงบอลพุ่งแต่ยังไม่ผ่านมือ โรบิน โอลเซ่น ที่โชว์ซูเปอร์เซฟปัดออกไปได้อีก
อีกสองนาทีถัดมา ทัพโปลได้ลุ้นอย่างต่อเนื่อง ปิโอเตอร์ เซลินสกี้ กระชากเข้าไปซัดบนเส้น 18 หลาบอลแต่บอลพุ่งไปแฉลบ วิคเตอร์ ลินเดอลอฟ ออกหลัง
บุกเพลินๆ โปแลนด์ เกือบเสียเม็ดที่สอง หลังนาที 50 สวีเดน สวนกลับมารวดเร็ว มิคาเอล ลุสติก แทงให้ โรบิน ไควสัน หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดในกรอบเต็มข้อแต่ยังไปติดมือของ วอยเชี๊ยค เชสนี่ แม้ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก จะวิ่งมาตามซ้ำแต่ก็ยังไปแฉลบแข้งโปลออกหลัง
เกมรุกแลกกันสนุก นาที 52 แนวรับสวีเดนเกือบมาพลาดหลังปล่อยให้ เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวี๊ยค ซัดหน้ากรอบเต็มแรงแต่ยังดีที่บอลไม่ผ่านมือ โรบิน โอลเซ่น ที่เซฟช่วยทีมไว้ได้อีกหน
นาที 55 เดยัน คูลูเซฟสกี้ ดาวเตะจากยูเวนตุสถูกส่งมาเล่นแทน โรบิน ไควสัน
และแค่นาที 59 คูลูเซฟสกี้ ทำแสบหลังพาบอลโต้กลับจากแดนตัวเองขึ้นมาก่อนลากเข้ามาในกรอบแล้วผ่านให้ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ซัดเข้าไปให้ สวีเดน นำห่าง 2-0 และเป็นประตูที่สองในเกมนี้ของดาวเตะจากไลป์ซิก
ทว่า โปแลนด์ ไม่ยอมง่ายๆ แค่นาที 61 มาได้ประตูคืนสู่เกมตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 จากลูกยิงอันสุดสวยของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ปั่นด้วยขวาผ่านมือ โรบิน โอลเซ่น เข้าไป
นาที 65 ยาคุบ ชเวียร์โชค ตัวสำรองของ โปแลนด์ วิ่งมาโฉบมาส่งบอลเข้าก้นตาข่ายไปแล้วแต่มีธงยกเป็นล้ำหน้าซึ่งผู้ตัดสินหลังเช็กกับ วีเออาร์ แล้วยืนยันว่าเป็นลูกล้ำหน้าจริงทำให้ทัพโปลชวดได้ลูกตีเสมอสกอร์ยังตามหลังทัพไวกิ้งอยู่เหมือนเดิม
นาที 84 โปแลนด์ มาไล่ตีเสมอ 2-2 สำเร็จหลัง เพอร์เซมีสลาฟ ฟรานคอฟสกี้ ตัวสำรองครอสบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษแนวรับสวีเดนสกัดบอลไม่ดีมาตกใส่เท้า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ จับบอลก่อนซัดผ่านมือ โอลเซ่น เข้าไปเป็นประตูที่สองในเกมนี้ของหัวหอกจากบาเยิร์น มิวนิค
แต่ช่วงทดเจ็บนาที 90+4 สวีเดนมาได้ประตูชัยจาก วิคเตอร์ เครสสัน ตัวสำรองที่ซัดเข้าไปไม่พลาดให้ทัพไวกิ้งแซงนำอีกครั้ง 3-2
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม สวีเดน เฉือนเอาชนะ โปแลนด์ 3-2 เก็บสามแต้มคว้าแชมป์กลุ่มไปครองส่วน โปแลนด์ จบบ๊วยของกลุ่มรวงตกรอบยูโร
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
สวีเดน (4-4-2) : โรบิน โอลเซ่น – มิคาเอล ลุสติก (เอมิล คราฟธ์ น.68), วิคเตอร์ ลินเดอลอฟ, มาร์คุส ดาเนียลสัน, ลุดวิก เอากุสตินส์สัน – เซบาสเตียน ลาร์สสัน, คริสตอฟเฟอร์ โอลส์สัน, อัลบิน เอ็คดัล, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก (วิคเตอร์ เครสสัน น.77) – อเล็กซานเดอร์ อิซัค (มาร์คุส เบิร์ก น.68), โรบิน ไควสัน (เดยัน คูลูเซฟสกี้ น.55)
เทรนเนอร์ : ยานเน่ อันเดอร์สสัน
โปแลนด์ (3-4-2-1) : วอยเชี๊ยค เชสนี่ – บาร์ตอสซ์ เบเรสซินสกี้, คามิล กลิค, ยาน เบดนาเร็ค – คามิล ยอซเวี๊ยค (ยาคุบ ชเวียร์โชค น.61), มาเตอุสซ์ คลิช (แคสเปอร์ คอสโลวสกี้ น.73), เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวี๊ยค (เพอร์เซมีสลาฟ พลาเชต้า น.78), ตีโมเตอุสซ์ ปูชัคซ์ (เพอร์เซมีสลาฟ ฟรานคอฟสกี้ น.46) – คาโรล สวิเดอร์สกี้, ปิโอเตอร์ เซลินสกี้ – โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
เทรนเนอร์ : เปาโล ซูซ่า
ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ (อังกฤษ)
